อิฐบล็อก คุณภาพ ราคายุติธรรม ส่งตรงเวลา

คอนกรีตบล็อก ผิวโชว์ WK-BLOCK

คอนกรีตบล็อก วงกลม ( WK- BLOCK ) นอกจากจะมีคุณสมบัติที่ได้ตาม มาตรฐาน มอก.57-2533  เรื่องการรับแรงอัด ( Loadbearing wall) ที่มากกว่า 140 ksc. การดูดซึมน้ำ  (Water absorption ) ของ คอนกรีตบล็อก ที่น้อยกว่า 10 % และ สามารถทนไฟ ( Fire rating ) ได้ มากกว่า 4 ชม.แล้ว ยังมีคุณสมบัติเด่น ที่สามารถใช้ก่อโชว์แนว โชว์พื้นผิวที่เรียบสวยงาม ของบล็อกได้อีกด้วย ( smooth face concrete block )

 

 

อิฐมอญ อิฐมวลเบา มีดีกันคนละแบบ

 

เป็นปัญหาที่มักพบกันบ่อยมากว่าใช้ วัสดุอะไร ทำบ้านดี เริ่มต้นด้วยเรื่องของ อิฐบล็อก เลยว่าจะใช้ อิฐ แบบไหนดีที่ทำให้บ้านเราคุ้มค่า เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ วันนี้เสนอ2 อย่างอิฐมอญ อิฐมวลเบา ดีไม่เหมือนกัน

ใช้ อิฐบล็อก มอญ อิฐบล็อก มวลเบา

คุณภาพบ้านจะดีหรือไม่ดี สามารถประหยัดพลังงานได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการก่อสร้าง ความชำนาญงานของช่าง เมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติ คุณภาพของบ้าน ที่สร้างด้วยอิฐมวลเบา และอิฐมอญก่อ 2 ชั้น (มีช่องว่างตรงกลาง) แยกเป็นประเด็นได้ดังนี้ 

คุณสมบัติทางกายภาพ อิฐมวลเบา หนา 10 เซนติเมตร เมื่อรวมน้ำหนักวัสดุรวมปูนฉาบจะหนัก 120กิโลกรัม ในขณะที่อิฐมอญก่อ 2 ชั้น (เว้นช่องว่างตรงกลาง) จะหนัก 180 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักของการก่ออิฐมอญจะมากกว่าทำให้ต้องเตรียมโครงสร้างเผื่อกันรับน้ำหนักในส่วนนี้ด้วย ทำให้ต้นทุนโครงสร้างเพิ่มขึ้น

การกันความร้อน   หากเป็นกรณีปกติ “อิฐมวลเบาจะมีค่าการนำความร้อนที่ต่ำกว่าอิฐมอญประมาณ 8-11 เท่า แต่การก่อผนังภายนอกอิฐจะต้องมีความหนา 10 เซนติเมตร และผนังภายในหนา 7 เซนติเมตร ขึ้นไป จึงจะสามารถกันความร้อนได้ดี แต่ในกรณีใช้อิฐมอญก่อ 2 ชั้น ตัวช่องว่างตรงกลาง จะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี และอิฐแถวด้านในไม่สัมผัสความร้อนโดยตรง จึงทำให้คุณสมบัติตรงนี้ ของอิฐมอญจะมีความสามารถในการกันความร้อนได้ดีกว่า แต่การเว้นช่องว่างไม่ควรต่ำกว่า 5 เซนติเมตร

การกันเสียง ปกติอิฐมวลเบาจะกันเสียงได้ดีกว่าอิฐมอญประมาณ 20% แต่ในกรณีใช้อิฐมอญก่อ 2 ชั้น ช่องว่างตรงกลางจะทำหน้าเป็นฉนวนกันเสียงได้ดีกว่าเกือบ 2 เท่า แต่อิฐมวลเบาจะลดการสะท้อนของเสียงได้ดีกว่า

การกันไฟ  อิฐมอญก่อ 2 ชั้นมีฉนวนตรงกลาง จะกันไฟได้ดีกว่าอิฐมวลเบาเล็กน้อย

ความแข็งแรง การใช้งานทั่วไปไม่ต่างกัน แต่ผนังอิฐมอญจะเหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมาก เช่น หินแกรนิต หรือหินอ่อน

 

การก่อสร้าง ความเรียบร้อยของการก่ออิฐมอญจะขึ้นอยู่กับฝีมือในการก่อให้ได้แนวดิ่งของช่างก่อ หากก่อไม่ได้แนวดิ่งและการฉาบความหนาของปูนไม่สม่ำเสมอ อาจจะทำให้ปูนฉาบเกิดการแตกร้าวได้ ใช้เวลาก่อนานกว่าเนื่องจากมีขนาดเล็ก รวมถึงขั้นตอนการเตรียมและจัดเก็บ

 

วัสดุซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียวัสดุจากการก่อสร้างไปมากพอสมควร ในขณะที่อิฐมวลเบาการสูญเสียวัสดุจะน้อยกว่า เพราะขั้นตอนการทำงานง่ายกว่า และวัสดุมีขนาดใหญ่แต่ละก้อนได้มาตรฐานเดียวกัน มีน้ำหนักเบาทำให้ก่อสร้างได้รวดเร็วและเรียบร้อยกว่า

 

ราคาวัสดุและค่าแรง เมื่อเทียบราคาวัสดุบวกค่าแรงต่อตารางเมตร อิฐมวลเบาหนา 10 เซนติเมตร ราคาเฉลี่ยประมาณ 360-400 บาท/ตารางเมตร ส่วนอิฐมอญก่อ 2  ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 400-420 บาท/ตารางเมตร 

 

นอกจากนี้การก่อ อิฐบล็อก มอญ 2 ชั้น หากก่อกินพื้นที่ด้านในมาก จะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านลดลง แต่ปกติโดยทั่วไปช่างจะก่อเต็มหน้าเสา

 

 

 

จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่รวมมาให้นั้น ส่งผล ไปซื้อทั้งการจ้าง ช่าง การซื้อวัสดุต่างๆที่เราต้องใช้ เพื่อมาตกแต่ง ภายในบ้าน การสร้างบ้านนั้นก็เหมือนการหากหลัก ที่แข็งแรง ไม่อยากถูกหลอก การเลือก ซื้อ อิฐบล็อก ต่างๆก็สำคัญเช่นกัน


 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก nucifer

ประเภทของ อิฐบล็อก ที่ใช้ในงานก่อสร้าง

 

 

อิฐบล็อก ถือเป็นวัสดุพื้นฐานที่มีความสำคัญสำหรับการก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั่วไป วันนี้เราจึงจะมาแนะนำให้รู้จักกับ อิฐ แต่ละประเภทกัน 

 


     การจะนำอิฐไปใช้ในงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะปลูกสร้างบ้าน สร้างที่พักอาศัย สร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ควรทำความเข้าใจกับลักษณะของอิฐแต่ละประเภทกันก่อน ว่ามีความเหมาะสมกับงานก่อสร้างในด้านใด


ประเภทของ อิฐบล็อก ที่ใช้ในงานก่อสร้าง

1. อิฐมอญ

     อิฐมอญ หรือ อิฐแดง หรือ อิฐดินเผา เป็นอิฐขนาดเล็ก โดยทั่วไปมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ชนิดทำมือ (ผิวจะขรุขระ) และ ชนิดปั้นด้วยเครื่อง (ผิวจะเรียบ) และยังทำให้เบาขึ้น เนื่องจากมีรูกลวง 2-3 รูตลอดความยาวของอิฐ ทำจาก ดินเหนียว น้ำ และวัสดุที่ผสมเพิ่ม เช่น ขี้เถ้า แกลบ ทราย ผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นใส่แบบพิมพ์อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมตามขนาดที่ต้องการ ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงนำเข้าเตาเผาไปเผาจนสุก อิฐชนิดนี้มีขนาดและสัดส่วนไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับรูปแบบและแหล่งผลิต


     มีทั้งประเภทก้อนตันและมีรูตรงกลาง แต่โดยทั่วไปมีอยู่ 4 ขนาด ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก.) 77– 2545 ได้แก่ ขนาด 65 × 140 × 40 มิลลิเมตร, 90 × 190 × 40 มิลลิเมตร, 90 × 190 × 65 มิลลิเมตร และ 90 × 190 × 90 มิลลิเมตร


     ลักษณะการใช้งาน อิฐมอญ หรือ อิฐแดง นิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป มีข้อดี คือ สามารถยึดเกาะได้ดีกว่าอิฐประเภทอื่นๆ แต่ผนังอิฐมอญจะเหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมากๆ


2. อิฐขาว

     อิฐขาว ทำจากปูนขาวและทรายผสมกัน อัดด้วยเครื่องจักรที่มีความดันและอบด้วยความร้อนสูง อิฐขาวเป็นอิฐที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีแพร่หลายมานานแล้วในทวีปยุโรปและอเมริกา พัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนอิฐมอญและอิฐบล็อก เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทุกชนิด มีความแข็งแรงและคงทนถาวรกว่าอิฐมอญหรือ อิฐบล็อก โดยทั่วไเพราะเนื้ออิฐมีความหนาแน่นมากกว่า น้ำจึงซึมผ่านได้ยากกว่า ไม่อมความชื้น ป้องกันความร้อนได้ดี ทนไฟได้นาน น้ำหนักเบา การใช้อิฐขาวจะได้ผลงานออกมาเรียบร้อยกว่า เนื่องจากมีขนาดที่ได้ฉากสม่ำเสมอ ขนาดอิฐขาวโดยทั่วไปอยู่ที่ 11 × 24 × 7 เซนติเมตร


3. อิฐโปร่ง

     อิฐโปร่ง เป็นวัสดุที่มีส่วนผสมในการผลิตเช่นเดียวกับอิฐมอญ แต่ภายในจะเจาะรู หรือ ทำช่องภายในให้กลวง เพื่อให้มีน้ำหนักเบา เหมาะกับงานก่อสร้างทั่วไป


4. อิฐประดับ

     อิฐประดับ มักมีลวดลายหรือมีรูโปร่ง ผลิตจากหินเกร็ด กรวด ทรายซิลิกาสีต่างๆ ร่วมกับซีเมนต์และสารเคมีหลายชนิดผสมกัน แล้วอัดด้วยเครื่องอัดแรง มีคุณสมบัติแข็งแรงพอสมควร ไม่แตกง่าย เป็นฉนวนกันความร้อน และเก็บเสียงได้ดี เน้นความสวยงามเป็นหลัก ใช้ก่อกำแพงโชว์โดยไม่ต้องฉาบปูน มีให้เลือกหลายลาย หลายขนาด และหลายรูปแบบ


5. อิฐทนไฟ

     อิฐทนไฟ เป็นอิฐที่ทนความร้อนได้สูงมาก มีเนื้อละเอียด แน่น แข็งแรง ทำจากดินเหนียวที่มีส่วนผสมของอลูมิน่าและซิลิก้า โดยใช้เครื่องอัดให้เป็นรูปร่าง ใช้สำหรับสร้างเตาต่างๆ เช่น เตาถลุงแร่ เตาหลอมโลหะ


6. อิฐมวลเบา

     อิฐมวลเบา น่าจะเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

- อิฐมวลเบาชนิด AAC (Autoclave Aerated Concrete) หรือ ชนิดอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง

     ผลิตโดยใช้การอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง วัตถุดิบในการผลิตแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดปูนขาว ซึ่งควบคุมคุณภาพได้ยาก ทำให้คุณภาพคอนกรีตไม่สม่ำเสมอและดูดซึมน้ำมากกว่า ส่วนชนิดปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ คุณภาพคอนกรีตได้มาตรฐานสม่ำเสมอ และเกิดการตกผลึกในเนื้อคอนกรีตทำให้แข็งแกร่งทนทานขึ้น เนื้อผลิตภัณฑ์มักจะมีสีขาว มีข้อดีคือ มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่า อิฐมวลเบาชนิด CLC แต่ข้อเสียคือ อัตราการดูดซึมน้ำมาก


- อิฐมวลเบาชนิด CLC (Cellular Lightweight Concrete) หรือ ชนิดไม่อบไอน้ำ

     เป็นอิฐที่ถูกผลิตโดยการใส่สารผสมเพิ่มปริมาณฟองอากาศเข้าไป วัตถุดิบในการผลิตประกอบด้วย ปูนซีเมนต์ ทราย น้ำ สารก่อฟองคุณภาพสูง ทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็กมากที่มีความเสถียรและแทรกตัวอยู่ในเนื้อคอนกรีต ทำให้มีน้ำหนักเบา เนื้อผลิตภัณฑ์มักจะมีสีเทา ทำให้ อิฐมวลเบาชนิด CLC แน่นและดูดซึมน้ำได้น้อยกว่าแบบ AAC จึงลดปัญหาความชื้นและเชื้อรา มีคุณสมบัติความเป็นฉนวน ได้แก่ ฉนวนกันความ ร้อน กันเสียง และกันความชื้น


7. อิฐบล็อก คอนกรีตบล็อก

     อิฐบล็อก ทำจากส่วนผสมระหว่างปูนซีเมนต์กับทราย นิยมใช้ในงานก่อสร้างเช่นเดียวกับอิฐมอญ แต่มีราคาถูกและก่อสร้างได้รวดเร็วกว่า เหมาะกับงานที่ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย อาจมีความแข็งแรงไม่เท่าอิฐมอญ เพราะวัสดุมีรูพรุนมากกว่า ความหนาของ อิฐบล็อก มีหลายขนาด เช่น 7 เซนติเมตร, 9 เซนติเมตร, 14 เซนติเมตร และ 19 เซนติเมตร


     ส่วนคอนกรีตบล็อกนั้น มักทำจากส่วนผสมระหว่าง ปูนซีเมนต์ หิน และทราย จึงรับน้ำหนัก และแรงอัด ได้ดี นิยมใช้ในงานปูพื้นและทางเข้า ซึ่งการขึ้นงานทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

 

     อิฐ ที่ใช้ในงานก่อสร้างมีหลากหลายประเภทตามที่เราได้เสนอไป แต่ละแบบมีความเหมาะสมในใช้งานแตกต่างกันไป จะใช้ก่อสร้างแบบไหนลองพิจาณากันให้ดีนะคะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก srangbaan

สร้างบ้านควรใช้อิฐมอญหรืออิฐมวลเบา

 

จากที่เจ้าของกระทู้ได้ถามมา ขอแยกเป็นข้อๆ เพื่อตอบให้ได้อย่างชัดเจน ดังนี้

- ความทนทาน อายุการใช้งาน

- อุณหภูมิภายในบ้าน

- การตกแต่ง ต่อเติม

 

ความทนทาน อายุการใช้งาน

     ในเรื่องของความทนทาน ความแข็งแกร่ง อิฐมอญ จะได้เปรียบมากกว่าเพราะส่วนผสมที่ทำมาจาก ดินเหนียวปนทราย ผสม แกลบ และขี้เถ้า นำเข้าเตาอบ การยึดเกาะของเนื้อผิวจึงมีมากกว่า สามารถทุบ สกัด เจาะ ฝังอุปกรณ์ต่างๆ ที่รับน้ำหนักมากๆ ซึ่งต่างจาก อิฐมวลเบา ที่มีส่วนผสมทำมาจาก ทราย ซีเมนต์ ปูนขาว ยิปซั่ม และผงอลูมิเนียม มีรูพรุนอยู่ข้างในมากกว่า สามารถเกิดการแตกร้าวได้ง่ายกว่า

 

อุณหภูมิภายในบ้าน

คุณสมบัติในข้อนี้ต้องยกให้ อิฐมวลเบา เพราะเนื้ออิฐมีลักษณะเป็นฟองอากาศ มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี แตกต่างจาก อิฐมอญ ที่เนื้ออิฐมีคุณสมบัติสะสมความร้อนได้ดี เมื่อโดนแสงแดดช่วงกลางวันจะแผ่ความร้อนเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งถ้าห้องไหนก่อด้วย อิฐมอญ ควรมีการถ่ายเทอากาศออกสู่ภายนอกได้ ไม่เช่นนั้นต้องเปิดแอร์สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมาก

 

การตกแต่ง ต่อเติม

อิฐมอญ นิยมนำมาตกแต่งในหลายสไตล์ สามารถใช่ก่ออิฐโชว์แนว สไตล์ลอฟท์ หรือวินเทจ ในขณะที่ อิฐมวลเบา จะถูกนำมาใช้ก่อผนัง และฉาบปูนทับทั่วไป เรื่องการต่อเติมทั้ง 2 แบบ สามารถทำได้เหมือนๆ กัน ขึ้นอยู่กับใช้งาน เช่น ถ้าจะต่อเติม เจาะแขวนสิ่งของที่รับน้ำหนักมาก ผนังส่วนนั้นควรใช้ อิฐมอญ จะดีกว่า

 

เพิ่มเติม

- ราคาของทั้ง 2 ชนิดแทบไม่ต่างกันมาก เพราะถ้ารวมค่าวัสดุ + ค่าแรง ราคาจะสูงมาก – น้อย กว่าไม่เท่าไหร่

- อิฐมอญสามารถกันไฟได้นาน 2 ชม. ในขณะที่อิฐมวลเบาจะกันไฟได้นานกว่าถึง 4 ชม.

- ในการก่ออิฐ อิฐมวลเบาจะประหยัดเวลากว่า เพราะมีขนาดใหญ่และเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ต่างกับอิฐมอญที่มีขนาดเล็กกว่า

- น้ำหนักอิฐมวลเบาจะเบากว่าอิฐมอญ ประมาณ 2 เท่า

- การใช้พุก อิฐมอญควรใช้พุกพลาสติกสำหรับยึดสกรู เพื่อแขวนของ ส่วนอิฐมวลเบาต้องใช้พุกโลหะในการแขวนของ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก baanlaesuan

อิฐมวลเบาคุ้มค่าสำหรับการทำบ้าน

 

การจะสร้างบ้านนั้น เป็นที่พักอาศัยของเราเลยนะ เราต้องคำนึกหลากหลายปัจจัยมาก มากถึงมากที่สุดทั้งวัสดุก่อสร้างสถานที ทิศทางลม งบประมาณระยะเวลาการทำ วันนี้มาทำความรู้จักอิฐมวลเบา

อิฐมวลเบา

จัดเป็นวัสดุก่อสร้างยุคใหม่ มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า คอนกรีตมวลเบา ซึ่งผลิตมาจาก ปูนซีเมนต์ทรายบดละเอียดปูนขาวยิปซั่มผงอะลูมิเนียม และน้ำสะอาด ผสมเข้าด้วยกันจนเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เกิดฟองอากาศเล็กๆ จำนวนมากกระจายตัวกันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งฟองอากาศเหล่านี้แหละครับที่ทำให้อิฐมีน้ำหนักเบา

 แต่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด เพราะคิดว่าฟองอากาศเหล่านี้ทำให้ตัวอิฐไม่แข็งแรงและดูดซึมความชื้นได้ง่าย

ข้อดีของอิฐมวลเบานั้นก็คือ ไม่ดูดซับความร้อน

เนื่องจากอิฐมวลเบามีโครงสร้างที่เป็นรูพรุน ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้คลายความร้อนออกจากตัวบ้านได้เป็นอย่างดี สามารถช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นได้ เมื่อบ้านเย็นก็สามารถช่วยประหยัดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศและลดการใช้พลังงานอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ

อิฐมวลเบานั้นมีรูปขนาดที่ได้มาตรฐาน

อิฐมวลเบามีรูปร่างลักษณะและขนาดที่เป็นมาตรฐานจากโรงงานผลิต ก่อและฉาบง่ายได้งานเรียบเนียนและกะปริมาณที่แน่นอนในการใช้งานได้ นอกจากนั้นยังมีให้เลือกหลายขนาดความหนา

ปัญหาการแตกร้าวลดน้อยลง

เพราะมีคุณสมบัติที่แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว วัสดุมีความยืดหยุ่น ทนต่อการหดและขยายตัวได้ดี ทำให้หมดปัญหาเรื่องรอยแตกร้าวที่ผนังได้

 

เห็นไหมครับว่าจริงๆแล้วอิฐมวลเบานั้น ก็สามารสร้างสรรผลงานได้สบายมากประหยัดทั้งราคาและ ค่าแรงที่จ้างระยะเวลาการทำงานนั้นก็ลดน้อยลงอีกด้วย

การเข้าใจผิดเกี่ยวกับอิฐมวลเบานั้น เกิดขึ้นเพราะว่ามีฟองอากาศในอิฐแล้วก็คิดกันไปว่าไม่แข็งแรงไม่ทนทาน แต่รูพรุนอันนี้ที่ทำให้ตัวอิฐชนิดนี้มีข้อดีกว่าอิฐชนิดอื่นๆ นอกจากนั้นสิ่งสำคัญอีกข้อก็คือ อิฐมวลเบาที่ดีนั้นต้องผ่านการอบด้วยไอน้ำที่มีอุณหภูมิและแรงดันสูงเป็นเวลานานจึงเกิดเป็นผลึกที่แข็งแรง

 

หากท่านใดกำลังมองหาวัสดุอิฐบล็อก เอาไว้ก่อสร้างสามารถติดต่อเรามาได้ตลอดเลยนะครับ คลิกที่นี่

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก dbp
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค
อิฐ บล็อก อิฐบล็อก บล็อค อิฐบล็อค